โรคท้องเสียเป็นอีกหนึ่งอาการที่เจ้าของแมวทุกคนกังวลมากที่สุด
ส่วนใหญ่เวลาซักประวัติ จะได้ยินประมาณนี้เลยครับ..... คุณหมอค่ะ ปกติแมวของหนูเวลาอึในกระบะทรายทีไรเห็นก็เป็นก้อนทุกครั้ง
อยู่ดีๆทำไมวันนี้ อึมันดูนิ่มขึ้นบางทีถึงกับเหลว
แถมยังมี กลิ่นเหม็นมากกว่าปกติอีกด้วย พออีกสักพักแมวหนูก็เริ่มอาเจียนด้วยค่ะ
อาหารก็ไม่กินน้ำก็ไม่ทาน ทำไงดีค่ะ แมวของหนูจะเป็นอันตรายมากมั๊ย แล้วมันจะตายมั๊ยค่ะ
พอไปหาข้อมูลในเน็ตมาก็มีเยอะแยะเต็มไปหมดเลย หนูงงไปหมดแลวค่ะหมอ ทำไงดี!
ไม่แปลกใจเท่าไรหรอกครับ
เพราะถ้าแมวของพี่มีอาการผิดปกติแบบนี้ขึ้นมา พี่ก็คงเครียดไม่ต่างอะไรจากน้องๆ (โดยเฉพาะสาวกทาสแมวที่เพิ่งได้ลูกแมวน้อยมาภายในเดือนแรก)
เนื่องจากมีคนถามข้อมูลเรื่องโรคท้องเสียเข้ามาค่อนข้างเยอะ ดังนั้นเนื้อหาในครั้งนี้เราจะมาไขข้อข้องใจกันว่า
"เพราะสาเหตุใดบ้างจึงทำให้แมวท้องเสีย" มาจากตัวแมวที่อ่อนแออยู่ก่อนแล้วหรือมาจากพฤติกรรมการเลี้ยงของตัวเจ้าของเองที่ไม่ถูกต้อง
โดยผมจะตอบจากคำถามส่วนใหญ่ที่มักพบเจอ
ลองไปดูกันครับ
1.แล้วสาเหตุใดบ้างล่ะที่ทำให้เกิดโรคท้องเสียในแมวของหนู^^
(มีหลายสาเหตุมากเลยครับแต่เราสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น
ดังนี้)
1)การเลี้ยงไม่ถูกวิธีเพราะความไม่รู้หรือไม่ใส่ในการเลี้ยงเท่าที่ควร
ส่วนใหญ่คือการเปลี่ยนอาหารในทันทีโดยลืมผสมกับอาหารของเดิม(ทั้งอาหารชนิดเม็ด
อาหารเปียก รวมถึงอาหารทั่วไป) หรือให้กินอาหารที่ย่อยยากโดยที่ระบบย่อยอาหารยังไม่แข็งแรงพอ
เช่น นม ผักผลไม้ บางครั้งอาจเกิดจากสุขลักษณะที่ไม่เหมาะสม (ไม่ค่อยใส่ใจเลี้ยงดูแลเค้านั่นแหละ)
เช่นไม่ค่อยล้างจานใส่อาหารและน้ำเท่าไร เอาแต่ให้อาหารและน้ำอย่างเดียว ทำให้เราไม่รู้ว่ามีอาหารที่บูดหรือเริ่มเสื่อมคุณภาพปะปนด้วยหรือเปล่า
เราควรล้างภาชนะของน้องแมวอย่างน้อยวันละครั้งและให้อาหารและน้ำเป็นมื้อๆไป ถ้าน้องแมวกินอาหารเหลือนิดหน่อย
แนะนำให้ทิ้งและให้ของใหม่ดีกว่าครับ ที่สำคัญเจ้าของไม่ควรทิ้งอาหารไว้ข้ามคืนและอย่าแมวให้กินน้ำประปาหรือน้ำตามแหล่งไม่สะอาดเช่นในห้องน้ำหรือในกระถางต้นไม้
เพราะนี่เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ผมพบบ่อยมากและทำให้แมวท้องเสียได้ง่ายๆเลยล่ะครับ
2)ความเสี่ยงต่อการท้องเสีย ขึ้นกับอายุของแมวด้วย
หนึ่งในปัญหาที่ผมพบบ่อยมากสำหรับเจ้าของที่เพิ่งได้รับแมวมาเลี้ยงคือ
ซื้อมาแค่ไม่กี่วันทำไมลูกแมวถึงถ่ายเหลวและมักเป็นในสัปดาห์แรก
โดยถ้าซักประวัติแล้วคิดว่าไม่น่าเกิดจากปัญหาที่เราเลี้ยงเค้าไม่ถูกต้อง "แสดงว่าน้องแมวอาจติดเชื้อมาจากคนที่ขายหรือให้เรามาครับ"
อาจเป็นเพราะสถานที่เลี้ยงไม่สะอาด เลี้ยงแมวหนาแน่นมากเกินไป
ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อและมีพยาธิได้ หรือแยกจากแม่แมวเร็วกว่ากำหนด(ลูกแมวควรได้รับน้ำนมเหลืองจากแม่แมวอย่างน้อย30-45วัน
ไม่งั้นจะทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำ แมวจึงอ่อนแอและป่วยได้ง่ายครับ) ดังนั้นก่อนที่จะซื้อลูกแมวหรือรับแมวใหม่มาเลี้ยงเราควรทราบเบื้องต้นก่อนว่าสถานที่ๆเค้าอยู่ก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร
และคนขายมีความรู้ในการเลี้ยงแมวมากน้อยแค่ไหน มิเช่นนั้นเราอาจต้องมานั่งเสียใจภายหลังได้นะครับ
นอกจากปัญหาท้องเสียในลูกแมวแล้ว
แมวที่อายุมากก็มีความเสี่ยงต่อการท้องเสียได้เหมือนกันครับ เพราะส่วนใหญ่เมื่อแมวอายุเกิน
7 ปีขึ้นไป แมวอาจเป็นโรคตับ ไต หรือบางตัวอาจมีภาวะฮอร์โมนผิดปกติ
เช่นไฮเปอร์ไทรอยด์ เบาหวาน รวมถึงการเป็นมะเร็ง โดยเฉพาะมีเนื้องอกที่ตำแหน่งกระเพาะหรือลำไส้
โรคเหล่านี้มีผลต่อระบบย่อยอาหาร ผลที่ตามมาคือเวลาถ่ายอึจะค่อนข้างเหลวกว่าปกติ
ถ้าปล่อยให้นานจนเรื้อรั้งจะส่งผลให้แมวท้องเสียได้เช่นกันครับ
3)พฤติกรรมของแมว
นอกจากสาเหตุข้างต้นที่ทำให้เจ้าเหมียวเสี่ยงต่อการท้องเสียแล้ว
ลักษณะนิสัยบางอย่างก็มีผลโดยตรงเช่นกัน เช่น การเลียขนทำความสะอาดตัวเอง
ทำให้มีขนลงไปในกระเพาะอาหาร ถ้ามีขนสะสมมากๆอาจทำให้เกิดการระคายเคืองที่กระเพาะอาหาร
ทำให้แมวถ่ายเหลวได้เหมือนกัน นอกจากนี้แมวบางตัวที่ชอบออกไปเที่ยวนอกบ้านอยู่เป็นประจำ
(ประมาณ ออกเช้ากลับเย็น) มักมีโอกาสเสี่ยงต่อการท้องเสียมากกว่าแมวที่เลี้ยงในบ้าน
ยกตัวอย่างคือ เผลอไปกินอาหารและน้ำที่ไม่สะอาด ซึ่งอาจมีพยาธิภายนอกเช่นพยาธิตัวกลม
ปรสิตกลุ่มโปรโตซัว แบคทีเรียหรือไวรัสที่มีผลต่อการทำงานในระบบย่อยอาหาร ทำให้เกิดท้องเสียได้เหมือนกันครับ
วันนี้เราพอทราบเบื้องต้นกันแล้วนะครับว่าสาเหตุทีแมวท้องเสียนั้นมาจากอะไรได้บ้าง
ในตอนหน้า ผมจะมาอธิบายต่อในเรื่องอาการทั่วไปที่พบได้ขณะแมวท้องเสีย การสังเกตว่าเป็นแค่ถ่ายเหลวธรรมดาทั่วไป
หรือติดเชื้ออย่างรุนแรง และยังมีการจัดการเบื้องต้นจนถึงวิธีการป้องกันซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อการท้องเสียได้มาก
แล้วเรามาพบกันอีกครั้งในบทสรุปเรื่องท้องเสียในตอนหน้านะครับ
หมอเป็ด เพ็ทนิสต้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น