ผมคิดว่าการหาสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน
ไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือแมว คงเป็นเรื่องง่ายมาก
เพราะทุกวันนี้มีแหล่งขายสัตว์เลี้ยงมากมายให้คุณได้เลือก
หรือไม่แน่คุณอาจได้มาฟรีๆ(โดยที่คุณตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม) แล้วหลังจากที่เราได้พวกเค้ามาแล้วล่ะ
คุณเริ่มเตรียมพร้อมสำหรับการดูแลสมาชิกใหม่ของครอบครัว(ตัวนี้)ดีพอแล้วรึยัง
เริ่มแรกในการเลี้ยงนั้น นอกจากเจ้านายอย่างพวกคุณต้องให้น้ำ ให้อาหารแก่พวกเค้าแล้ว
ความรักและความเอาใจใส่ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้
การดูแลสุขภาพของพวกเค้าเป็นอีกสิ่งสำคัญที่ต้องทำให้กับสัตว์เลี้ยงของคุณ
เริ่มง่ายๆคือ การดูแลการทำความสะอาดสัตว์เลี้ยงตั้งแต่ศีรษะยันปลายเท้า
หรือที่เราเรียกว่า "กรูมมิ่ง" นั่นเอง ดังนั้นเนื้อหาในวันนี้
หมอเป็ดจะมาอธิบายถึงหลักสำคัญเกี่ยวกับการกรูมมิ่ง
ว่าเจ้าของทุกคนต้องเตรียมตัวอย่างไร โดยมี "7 ขั้นตอนง่ายๆ
สำหรับเตรียมตัว "กรูมมิ่ง" รับรองว่ามีประโยชน์กับทุกท่านแน่นอนครับ
1.ก่อนจะกรูมมิ่ง
แน่ใจรึยังว่าอุปกรณ์ที่ใช้น่ะ ถูกต้องแล้ว...
การเลือกใช้อุปกรณ์กรูมมิ่งที่เหมาะสม
นอกจากทำให้ขั้นตอนการดูแลง่ายขึ้นแล้ว
ยังทำให้ผู้เลี้ยงรู้สึกสนุกและมีความสุขไปกับการกรูมมิ่ง
(รวมถึงตัวสัตว์เลี้ยงเองด้วย) ดังนั้นก่อนเลือกใช้เครื่องมือใดๆ
เราควรศึกษาหาข้อมูลกันนิดนึง เพราะปัจจุบันนี้มีอุปกรณ์กรูมมิ่งมากมายเลยครับให้เราเลือกใช้กัน
(หวีแปรงขนก็มีหลายรุ่น แปรงสีฟันหลายยี่ห้อ ที่ตัดเล็บหลายแบบ เยอะมากจริงๆ)
ถ้าเราไม่มั่นใจ เราควรถามคนขายที่มีความรู้หรือให้สัตวแพทย์แนะนำ เพื่อประโยชน์และความปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยงของเราครับ
2."แปรงขน"
กิจวัตรที่ควรทำทุกๆวัน
สิ่งสำคัญที่เจ้าของควรทำให้สัตว์เลี้ยงของเราทุกวัน
นั่นคือ "การแปรงขนครับ"
เพียงแค่ใช้เวลาวันละไม่กี่นาทีในการดูแลขนของพวกเค้าโดยการแปรง
นอกจากทำให้เส้นขนมีสุขภาพดีแล้ว ยังช่วยขจัดสิ่งสกปรกและขนที่เสีย
รวมถึงป้องกันไม่ให้เกิดขนพันกันอีกด้วย ข้อควรระวังคือ เมื่อเราแปรงขนแล้วเจอก้อนขนหรือส่วนที่ยุ่งเหยิงมากๆ "อย่าเพิ่งพยายามดึงมันออกมา" เพราะสัตว์อาจเจ็บและหลีกเลี่ยงไม่อยากแปรงขนเท่าไรนัก
ถ้าไม่มั่นใจจริงๆ เจ้าของควรพาไปหาช่างตัดขนผู้เชี่ยวชาญ เพื่อจัดการเอาออกให้จะดีกว่า ที่สำคัญการแปรงขนจะช่วยเพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของและสัตว์เลี้ยงให้ดีมากยิ่งขึ้น
พวกเค้าจะรู้สึกดีที่ขนสวยเงางามและรักคุณมากขึ้นอีกด้วยครับ
3.เพิ่มความสะอาดและความสุขได้
ด้วย"การอาบน้ำ"
การอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงของเรานั้น
เป็นเรื่องปกติที่เจ้าของควรรู้และควรทำให้กับพวกเค้าอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ ขึ้้นอยู่กับชนิดสัตว์เลี้ยงและความยาวของขนด้วยครับ(ถ้าเป็นสุนัขควรอาบให้ทุกสัปดาห์
แต่ถ้าแมวนั้นอาบเดือนละครั้งยังได้เลย) การอาบน้ำนอกจากจะช่วยชะล้างสิ่งสกปรก
ขจัดไขมันส่วนเกินและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกไป
ยังทำให้ผิวหนังมีสุขภาพดีและช่วยผ่อนคลายความเครียดให้กับพวกเค้าได้ด้วย ปัญหาที่หนักใจสำหรับเจ้าของบางคนคือ สัตว์เลี้ยงของตัวเองไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่ชอบอาบน้ำเลย
ให้ตายสิ..... ถ้าเป็นแบบนี้เจ้าของควรรีบหาสาเหตุให้เจอ
อาจเป็นเพราะเราอาบน้ำผิดวิธี หรือพวกเค้าเคยมีประสบการณ์จากการคันเพราะแพ้แชมพู
หรือล้างออกไม่หมด ถ้าเจ้าของอาบเองไม่ได้จริงๆควรพาไปอาบน้ำที่ร้านกรูมมิ่ง
นั่นเป็นทางออกที่ดีที่สุดครับ
4."ตัดเล็บ"
เพื่อความปลอดภัยของผู้เลี้ยงและตัวสัตว์เองด้วย
เจ้าของควรหมั่นสังเกตความความยาวเล็บให้เหมาะสมเพื่อช่วยหลีกเลียงการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นกับตัวเรา(โดนหมาแมวข่วนเอาเนี่ยมันเจ็บนะ
บอกไว้ก่อน) รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ของคุณเองด้วย
นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่สาเหตุมาจากเล็บยาวจนเกินไป เช่น เล็บยาวจนทิ่มเนื้อตัวเอง
เล็บขบ อาจเกิดบาดแผลเวลาเกา โดยเฉพาะที่ตา
และถ้าเราปล่อยเล็บยาวมากเกินไปจะทำให้หลุดง่ายขึ้นด้วย นอกจากนี้การตัดแต่งเล็บสัตว์เลี้ยงของคุณ
ยังช่วยให้มีโอกาสตรวจดูเท้าของเขาเผื่อมีปัญหา เช่น เท้าบวม ฝ่าเท้าเริ่มแตกรวมถึงก้อนสังกะตังรอบๆฝ่าเท้า แต่ถ้าไม่มั่นใจในการตัดเล็บควรปรึกษาสัตวแพทย์ถึงวิธีการตัดเล็บที่ปลอดภัยครับ
5."ช่องหู"สะอาด
ลดโอกาสเป็นโรคหลายอย่างนะ
"ช่องหู" ก็เป็นอีกส่วนของร่างกายที่ผู้เลี้ยงต้องให้ความสำคัญในการดูแลเป็นพิเศษ นอกจากการอาบน้ำ
ตัดเล็บและแปรงขนให้กับสัตว์เลี้ยงของเราแล้ว "การเช็ดหูและการถอนขนในช่องหู" ถือว่ามีความสำคัญมาก
(โดยเฉพาะในสุนัขบางพันธ์ เช่น ชิสุห์ พุดเดิ้ล)
เนื่องจากบริเวณในช่องหูเป็นจุดอับ และมีขนขึ้น
ถ้าหากไม่ถอนและทำความสะอาดอยู่เป็นประจำจะทำให้เกิดปัญหาขึ้นแน่นอน
โดยเฉพาะขนบริเวณหูนั้นเป็นแหล่งสะสมเห็บหมัดและเชื้อโรคเป็นอย่างดีเลยทีเดียว
ที่สำคัญหากปล่อยไว้เรื่อยๆ
โดยไม่ดูแลก็อาจจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคช่องหูอักเสบได้อีกด้วย นอกจากนี้เราสามารถบอกได้ว่าสัตว์เลี้ยงของเราสุขภาพดีหรือไม่
โดยดูได้จากความสะอาดของช่องหูได้อีกเช่นกัน
6."แปรงฟัน"
ป้องกันปัญหากลิ่นปากและลดคราบหินปูน
เป็นเรื่องที่น่าตกใจครับ เพราะจากการที่ผมได้ซักถามข้อมูลจากผู้เลี้ยง หลายๆคนยังมีความเข้าใจผิดกันมาก คือมีผู้เลี้ยง(ขอย้ำว่าส่วนใหญ่ด้วยครับ) คิดว่าไม่จำเป็นต้องแปรงฟันเลย เพราะให้กินแต่อาหารเม็ด ฟันจึงน่าจะแข็งแรงและไม่มีปัญหาอยู่แล้ว นี่เป็นความเข้าใจที่ผิดมากๆเลยล่ะคับ ความจริงแล้วเราควรแปรงฟันให้กับพวกเค้า เพื่อป้องกันไม่ให้มีกลิ่นปากและโรคในช่องปากตามมาภายหลัง และควรเริ่มต้นฝึกการแปรงฟันตั้งแต่อายุน้อยๆเพื่อให้คุ้นเคย อาจปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำในการแปรงฟันที่ถูกต้องรวมถึงให้คุณหมอเลือกยาสีฟันที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับสัตว์เลี้ยง (แนะนำเพิ่มว่าควรแปรงฟันให้เค้าสัปดาห์ละหนึ่งครั้งครับ)
7.ทำให้พวกเค้าดูใหม่ด้วยการ
"ตัดแต่งขน"
สุนัขบางสายพันธ์โดยเฉพาะพันธ์ขนยาว
เช่น ยอร์คเชีย
มอลทีส ปอมเมอเรเนียน
ชิสุห์หรือพุดเดิ้ล จำเป็นต้องตัดแต่งขนเพื่อความสวยงามและป้องกันปัญหาขนไม่พันกัน
แต่ถ้าเป็นแมวบางพันธ์เช่น เปอร์เซีย ถ้าขนเริ่มยาวก็ควรเล็มออกเสีย นอกจากนี้การตัดขนยังเป็นอีกวิธีที่ช่วยป้องกันไม่ให้มีเห็บหรือหมัดอาศัยอยู่บนสัตว์เลี้ยงของเราด้วยครับ ที่สำคัญคือเจ้าของควรหาช่างตัดขนประจำตัวที่มั่นใจว่าสามารถตัดขนได้ถูกใจ
และเพื่อความปลอดภัยต่อตัวสัตว์เอง พยายามอย่าเปลี่ยนช่างตัดขนบ่อยเกินไป
เพราะนอกจากจะทำให้สัตว์ไม่คุ้นเคยแล้วยังเกิดความเครียดได้อีกครับ
การกรูมมิ่งนั้นเราสามารถทำได้เองหรือพาไปร้านทีเชี่ยวชาญด้านกรูมมิ่งโดยตรง นอกจากจะช่วยให้เจ้าเหมียวกับเจ้าตูบของเราดูดีแล้ว สิ่งสำคัญที่พวกเค้าได้รับอีกคือ การมีสุขภาพทีดีทั้งภายนอกและภายใน
รวมทั้งป้องกันความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลายชนิดได้อีกด้วย
รู้อย่างนี้แล้ว
เจ้าของทุกคนควรใส่ใจเรื่องกรูมมิ่งให้กับพวกเค้ามากกว่านี้นะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น