ผมเชื่อว่าผู้เลี้ยงแมวทุกคนคงจำได้เกี่ยวกับความทรงจำที่น่าประทับใจ
เมื่อตอนได้แมวมาเลี้ยง(ไม่วาจะเป็นแมวเด็กหรือแมวโต)
ด้วยความน่ารักของพวกเค้าคงทำให้เจ้าของมีความสุข ซึ่งรวมถึงตัวเจ้าเหมียวเองด้วย การได้รับแมวใหม่มาเลี้ยงไม่ว่าจะเป็นแมวเด็กหรือแมวที่โตแล้ว
"การดูแลและการฝึกในเบื้องต้นนั้นมีความสำคัญมาก" เพราะถือเป็นจุดแรกที่แมวจะเข้าใจและรักเจ้าของๆพวกมันไปอีกนาน บางทีแค่เราให้น้ำให้อาหาร หรือเตรียมอุปกรณ์ต่างๆเกี่ยวกับการเลี้ยงยังคงไม่พอ
ผู้เลี้ยงที่ดียังต้องให้ความรักและการเอาใจใส่แก่เจ้าเหมียวอีกด้วย
แต่มีอยู่ปัญหาหนึ่งที่มักทำให้เจ้าของมือใหม่กลุ้มใจกันทุกคน
โดยเฉพาะเมื่อได้ลูกแมวมาเลี้ยง นั่นคือปัญหาน้องแมว"ขับถ่ายไม่ถูกที่" ถึงแม้เราจัดเตรียมอุปกรณ์ใช้ขับถ่าย
(กระบะและทรายแมว ห้องน้ำแมว ฯลฯ )ให้แล้ว แต่ทำไมถึงไม่ยอมเข้าไม่ไปใช้กันเลยหรือว่าใช้ไม่เป็นกันนะ....
วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังครับว่า
เพราะอะไรลูกแมว(หรือแมวโต) ถึงขับถ่ายไม่ถูกที่ มีสาเหตุอะไร และมีวิธีแก้ไขยังไงบ้าง
พื้นฐานนิสัยโดยธรรมชาติ
แมว"รักสะอาด"
อยู่แล้ว
ตามปกติแล้ว
การฝึกน้องแมวให้ขับถ่ายถูกที่เป็นเรื่องที่ง่ายมากครับ เพราะโดยธรรมชาติแมวเป็นสัตว์ที่มีนิสัยรักสะอาด
เวลาขับถ่ายทุกครั้งจึงมักขุดคุ้ยดินมากลบอุจจาระของตัวเอง ส่วนใหญ่แล้วลูกแมวจะได้รับการสอนนิสัยนี้มาจากแม่ของพวกเค้า
ดังนั้นถ้าเจ้าของได้น้องแมวมาเลี้ยงเร็วเกินไปจะทำให้มีปัญหาในการขับถ่ายไม่เป็นที่แน่นอนครับ
เป็นไปได้ "ควรให้ลูกแมวอยู่กับแม่แมวจนถึงสองเดือนก่อนแล้วค่อยนำมาเลี้ยง
ซึ่งนี่เป็นวิธีฝึกที่ดีที่สุดครับ"
แต่ถ้าสาเหตุที่ขับถ่ายไม่ถูกที่ไม่ได้มาจาก "ขาดการฝึกนิสัยนี้จากแม่แมว"
คงต้องหันมานึกดูดีๆแล้วครับว่า เกิดจากตัวเจ้าของเองรึเปล่า เช่น อาจเตรียมอุปกรณ์ไม่ดีเอง
หรือตำแหน่งในการวางที่ไม่เหมาะสม ทำให้แมวไม่รู้ว่านี่คือห้องน้ำของพวกเค้า สิ่งสำคัญคือผู้เลี้ยงต้องหาสาเหตุให้เจอครับว่าทำไมพวกเค้าถึงขับถ่ายไม่เป็นที่และรีบแก้ไขให้เร็วที่สุด
ไม่งั้นพวกเรานี่แหละจะปวดหัว เพราะฉี่และอึแมวนั้นเหม็นมาก ยิ่งถ้าโชคไม่ดีน้องแมวเผลอไป........บนเฟอร์นิเจอร์หรือบนเตียงนอนของเราเนี่ย
รับรองได้ทำความสะอาดกันเหนื่อยแน่ๆ
เลือกกระบะที่เหมาะสมและวางตำแหน่งดีพอรึยัง
มีเหตุผลมากมายครับที่ทำให้แมวไม่ยอมอึลงในกระบะ(ต่อไปขอเรียกตรงๆแบบนี้นะ
จะได้เห็นภาพมากกว่า)
ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะปัญหาที่ตัวกระบะเอง เช่น ขนาดเล็กหรือตื้นเกินไปทำให้แมวไม่อยากใช้
หรือวางกระบะตรงตำแหน่งที่แมวมองไม่เห็น อย่าวางใกล้กับอาหารและน้ำมากจนกินไปเพราะจะทำให้แมวไม่ใช้เลยและเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคได้ ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรเอากระบะที่เคยใช้กับแมวตัวอื่นแล้วนำมาใช้ต่อ
เพราะอาจมีกลิ่นตกค้างอยู่ทำให้เค้าไม่อยากใช้และไม่เข้าใกล้เลย
"ชนิดและปริมาณทราย"
ก็มีผลนะ
นอกจากนี้ชนิดและปริมาณทรายก็มีผลเหมือนกันครับ แรกเริ่มควรให้ทรายธรรมดาทั่วไปก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนเป็นคริสตัลหรือทรายชนิดธัญพืช(เผื่อลองอยากใช้ในอนาคต)
ควรใส่ทรายที่ระดับ1-2นิ้ว ถ้าใส่ตื้นหรือมากเกินไป
แมวก็ลำบากในการกลบเหมือนกัน ส่วนเรื่องระดับทราย
เรากะเองได้ง่ายๆโดยดูจากขนาดตัวของแมว ถ้าตัวเล็กก็อย่าใส่เยอะ ตัวใหญ่หน่อยก็ใส่ให้ดูพอดี
ถ้ามากไปแมวอาจสะบัดทรายออกมาทำให้เจ้าของต้องเสียเวลาทำความสะอาดเพิ่มอีก
สังเกต ฝึกฝน อดทน
เฝ้ารอ
ในช่วงแรก เจ้าของควรหมั่นสังเกตถึงพฤติกรรมการขับถ่าย (โดยมากจะเป็นช่วงเช้า
และตอนทานอาหารเสร็จใหม่ๆ) ถ้าเกิดเรากำลังเห็นเค้าขับถ่ายอยู่แต่ไม่ใช่ในกระบะทราย เราควรรีบหยิบก้อนอึ ปัสสาวะ แล้วรีบนำไปวางในที่นั่นในทันที
พร้อมกลบทรายให้ทั่วๆ จากนั้นรีบอุ้มเจ้าเหมียวไปวางไว้ที่นั่นเพื่อให้เค้าจำกลิ่นอึและฉี่ของตัวองได้
เพื่อให้รู้ว่านี่คือห้องน้ำของพวกเค้า
ถ้าแมวคุ้นเคยกลิ่นดีแล้วก็จะใช้เองต่อไปโดยไม่มีปัญหาอะไร อย่าเพิ่งไปลงโทษเค้าทันทีนะครับ
เพราะนอกจากแมวจะไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดแล้ว อาจทำให้ฝังใจและกลัวการขับถ่ายมากขึ้น
เจ้าของควรทำความสะอาดเปลี่ยนทรายใหม่ และตักอึออกอย่างน้อยวันละครั้ง
ควรหมั่นสังเกตทรายแมวอยู่ตลอดเวลา
อย่าให้มีกลิ่นแรงเกินไป
เพียงเท่านี้ผมรับรองว่า
เจ้าเหมียวของเราจะค่อยๆเรียนรู้ และขับถ่ายในบริเวณที่เหมาะสมและถูกต้อง
ส่วนระยะเวลาก็ขึ้นอยู่กับแมวแต่ละตัวเองด้วย ค่อยๆให้เวลากับเค้า
ถ้าโชคดีพวกเค้าอาจจะเป็นเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่บางตัวอาจต้องใช้เวลา 3-7 วัน หรือนานกว่านั้น
เนื่องจากยังไม่คุ้นเคยสถานที่และไม่คุ้นกลิ่น แต่ถ้าเป็นบ่อยๆหรือนานเกินไป
ควรปรึกษาทางผู้เลี้ยงที่มีประสบการณ์หรือสัตวแพทย์น่าจะดีที่สุดครับ หวังว่าเนื้อหาวันนี้คงมีประโยชน์สำหรับผู้เลี้ยงแมวทุกคนนะครับ
หมอเป็ด เพ็ทนิสต้า